AsiaFurniture Thailand Menu
"ซื้อเฟอร์นิเจอร์ถูกใจช่วยบอกเพื่อน บริการไม่ถูกใจช่วยบอกเรา"
🔊 ประกาศ : ร้านเอเซียเฟอร์นิเจอร์ร่มเกล้า เปิดทำการตามปกติ หยุดอีกทีสงกรานต์ปีหน้า (พ.ศ. 2567) เลยครับ :)

วิธีการเลือกซื้อโซฟา

Update: 28 November 2009
Views: 43,846
วิธีการเลือกซื้อโซฟา
     ปัจจุบันโซฟา มีหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ซื้อควรคำนึงถึงคุณภาพ และแบบที่นำไปใช้ว่าเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ ที่ต้องการนำโซฟาชุดนั้นไปวาง
 
     การเลือกซื้อโซฟาในรูปลักษณ์ภายนอกนั้น ก็จะมีทั้งแบบที่เป็นพลาสติก พีวีซี หนังเทียม หนังแท้ และ ผ้า ผู้ซื้อโดยทั่วไปอาจจะไม่ทราบว่าจะเลือกใช้แบบไหนดี ทางร้านจึงขอแจกแจงคุณสมบัติภายนอกของโซฟาให้ทราบดังนี้
 
พลาสติก= ที่นำมาทำโซฟานี้จะสามารถเห็นได้ตามร้านตลาดล่างบางร้านค้าที่ทำโครงสร้างเลียบแบบโซฟาชุด 3 ที่นั่ง โซฟาสองที่นั่ง โซฟาเดี่ยว ที่ทำมาจากพลาสติก มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้น มีราคาต้นทุนที่ถูกมาก ขาดค่อนข้างง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานชั่วคราว
 
หนังพีวีซี= โดยส่วนใหญ่นิยมนำหนังพีวีซีมาทำเป็นหนังโซฟามากที่สุด สาเหตุเนื่องมาจากว่าราคาไม่สูงมากนัก คุณภาพถือว่าดีกว่าพลาสติกและผู้ซื้อหาซื้อไปใช้งานได้ง่าย การรักษาทำความสะอาดง่าย ไม่ยุ่งยาก ส่วนเรื่องขอ้เสียของหนังพีวีซี ก็คือเมื่อโดนของมีคมจะทำให้หนังขาดได้ง่าย
 
หนังเทียม หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่าหนังพียู = คุณลักษณะดีกว่าหนังพีวีซีเพราะว่ามีความหนาของชั้นหนังเพิ่มขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง คุณสมบัติโดยทั่วไปดีกว่าหนังพีวีซี ราคาสูงกว่าพีวีซีค่อนข้างมาก โดยปกติทั่วไปจะนิยมเทียบหนังเทียมกับหนังแท้มากกว่า หนังพีวีซี ปัจจุบันร้านบางร้านนำหนังเทียม มาขายเป็นหนังแท้ เนื่องจากหนังตัวนี้ใกล้เคียงกับหนังแท้มากอยู่เหมือนกัน ต่างกันก็แค่ความเหนียวของหนังเท่านั้น ข้อเสีย ก็คือ เมื่อโดนของมีคมก็จะทำให้หนังขาดได้เช่นกัน
 
หนังแท้= เป็นการนำหนังจากสัตว์ของพวก วัว ควาย มาทำจริงๆ ความเหนียวและความยืดหยุ่นมีมาก ปกติจะนิยมสำหรับผู้มีใจรักหนังแท้ ราคาค่อนข้างสูงมากๆ เมื่อใช้ไปนานๆ ก็จะเกิดความนิ่มขึ้น การเก็บรักษาง่าย ข้อเสียก็ให้ระวังเรื่องของมีคม
 
ผ้า = ปัจจุบันนิยมนำผ้ามาทำเป็นโซฟากันเพิ่มมากขึ้น ผ้าที่ว่านี้ก็มีอยู่หลากหลายเช่นกัน แต่ว่าครั้งนี้ทางร้านขอทำการพูดรวมๆ โดยทั่วไป ถ้าให้ถามกันถึงเรื่องการดูแลรักษาผ้าของโซฟานั้น จริงๆแล้วก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย เพียงแค่ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดบนโซฟา หรือว่าถ้ามีการหกของน้ำหวานบนโซฟา เพียงแค่นำสบู่ผสมกันกับน้ำ แล้วใช้แปรงสีฟันขัดให้สะอาดตรงส่วนที่เลอะหรือเปื้อน จากนั้นก็นำแปรงไปล้าง แล้วเอาผ้าชุบน้ำ มาเช็ดฟองสบู่ออก สุดท้ายก็ให้เอาไดร์เป่าผมเป่าตรงส่วนที่เปียกให้แห้ง เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วคะ ส่วนเรื่องว่าผ้าจะขาดนั้น ค่อนข้างยากกว่าหนังมากๆคะ นอกเสียจากว่าผ้าจะเปื่อย หมดอายุของการใช้งานคะ
 
ส่วนเรื่องคุณสมบัติภายในของโซฟานั้น เรามาอ่านกันในหัวข้อนี้ต่อได้เลยคะ
    
     โซฟาทุกรุ่นจะต้องบุฟองน้ำ หรือเศษผ้าด้านในอยู่แล้วคะ ส่วนเรื่อง ฟองน้ำที่ใช้ก็มีอยู่หลายเกรด เช่นกัน โซฟาตามร้านทั่วไปก็จะนิยมนำฟองน้ำมาบุกันแบบอย่างบางๆ เพราะว่าต้นทุนถูกเวลานั่งก็จะทำให้ผู้นั่งรู้สึกว่าโดนโครงด้านในได้อย่างชัดเจน  บางแห่ง ก็นำเอาพวกเศษผ้า เศษขยะแห้งมาใส่ อันนี้ก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของพวกโรงงาน ในการผลิตโซฟาเองแล้วละคะ ในเรื่องของการสังเกตว่าฟองน้ำที่บุด้านในโซฟานั้น แน่นหรือไม่นั้น ให้ผู้ซื้อสังเกตได้โดยการทดลองนั่งโซฟารุ่นที่ ต้องการจะซื้อไปเลยคะ เพราะว่าโดยปกติหลังจากที่โซฟาเย็บเสร็จแล้ว จะไม่สามารถถอดดึงหนังหุ้มโซฟาออกมาดูด้านในกันได้ ยกเว้นแต่ว่าโซฟามันเก่ามาก และก็ขาดจนเห็นถึงเนื้อด้านใน แต่ก็อย่างว่าแหละคะ ถ้าโซฟาผ้าขาดหรือว่าหนังขาดแล้วละก็ จะไม่สามารถทำเรื่องเคลมคืนกับร้านที่ซื้อมาได้อีก เพราะว่าโดยทั่วไปแล้วการรับประกันเรื่องโซฟานั้น จะรับประกันกันแค่เรื่องของการยุบตัวของที่นั่งเท่านั้นคะ
    
     ในเรื่องต่อไปของโซฟาที่มีผลต่อเรื่องราคานั้น ก็คือโครงของโซฟานั้นเองคะ โครงของโซฟา ในปัจจุบันนั้นมีการทำโครงโซฟา 2 แบบด้วยกันก็คือ 1.โครงไม้ 2. โครงเหล็ก ถ้าเป็นโครงไม้ราคาจะถูกกว่าเหล็กอยู่แล้วคะ แต่ว่าถ้าถามเรื่องของความแข็งแรงแล้วละก็จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรือว่าไม้ ถ้าตัวฟองน้ำของเบาะด้านในหมดอายุการใช้งานแล้วก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดีแหละคะ
 
สรุป อย่างง่ายๆ อีกรอบในการเลือกซื้อโซฟา ก็คือเลือกให้ได้ตามแบบที่เราต้องการ โดยให้คำนึงถึงพื้นที่ ที่เราต้องการจะวางได้ และให้ทดลองนั่งชุดที่ต้องการซื้อก่อนว่าถูกใจผู้ซื้อหรือไม่ เป็นดีที่สุดคะ